Colorpack 500MB
- Total space 500 MB
- Data Transfer 10 GB
- Email Account Unlimited
- Joomla! 3 Joomla! 4 Wordpress Support
- PHP7 PHP78 MYSQL MariaDB 10 UTF-8
Colorpack 1000MB
- Total space 1000 MB
- Data Transfer 20 GB
- Email Account Unlimited
- Joomla! 3 Joomla! 4 Wordpress Support
- PHP7 PHP78 MYSQL MariaDB 10 UTF-8
Colorpack 2000MB
- Total space 2000 MB
- Data Transfer 30 GB
- Email Account Unlimited
- Joomla! 3 Joomla! 4 Wordpress Support
- PHP7 PHP78 MYSQL MariaDB 10 UTF-8
Colorpack 4000MB
- Total space 4000 MB
- Data Transfer 40 GB
- Email Account Unlimited
- Joomla! 3 Joomla! 4 Wordpress Support
- PHP7 PHP78 MYSQL MariaDB 10 UTF-8
ทำยังไงให้เว็บที่ใช้ CMS opensource ปลอดภัย
ระบบจัดการเนื้อหาแบบโอเพ่นซอร์ส (CMS) เป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับเจ้าของเว็บไซต์ เนื่องจากเป็นระบบฟรี ยืดหยุ่น และใช้งานง่าย อย่างไรก็ตาม CMS แบบโอเพ่นซอร์สยังเสี่ยงต่อการถูกโจมตีด้านความปลอดภัยมากกว่า CMS ที่เป็นกรรมสิทธิ์ เนื่องจากทุกคนสามารถใช้รหัสโอเพ่นซอร์สได้ฟรี รวมถึงแฮ็กเกอร์ด้วย
รหัสผ่านยอดนิยมปี 2016 ยังเป็นรหัสผ่านเดิมๆ
Keeper Seecurity แอพจัดการรหัสผ่าน รวบรวมสถิติรหัสผ่านที่หลุดในปี 2016 รวมกว่า 10 ล้านบัญชี เพื่อมาวิเคราะห์ดูแนวโน้มว่า "รหัสผ่านยอดนิยม" ของประชากรชาวโลกคืออะไรกันแน่
ผลลัพธ์ยังเป็นเหมือน ไม่ได้แตกต่างอะไรจากสถิติในปี 2015 มากนัก รหัสผ่านยอดนิยมยังเป็น 123456 ที่มีคนใช้มากถึง 17% ของรหัสผ่านทั้งหมด และอันดับ Top 10 ก็เต็มไปด้วยรหัสผ่านที่คาดเดาได้ง่าย เช่น password, qwerty, 111111, 123123 เป็นต้น
ประกาศ Host Colorpack จะใช้ PHP 7 และ MariaDB เป็นหลัก
เพื่อประสิทธิภาพที่ดีของเว็บ ทางบริษัท Colorpack จะอัพเกรด server ไปใช้ ใช้ PHP 7 และ MariaDB เป็นหลัก ส่วนเว็บไหนใช้ไม่ได้ เราก็ยังมี PHP 5.6 ให้ใช้งานอยู่
ทำไมต้อง PHP7
- PHP7 มีการปรับปรุงประสิทธิภาพ ให้มีความเร็วมากกว่า PHP5.6 ถึง 2 เท่าด้วยกัน
- PHP7 ปรับลดอัตราการใช้หน่วยความจำ (RAM) ลงมากกว่ารุ่นเก่า
และเนื่องจาก CMS อย่าง Joomla! และ Wordpress รุ่นใหม่รองรับ PHP 7 แล้ว จึงไม่ต้องห่วงเรื่องความเข้ากันได้ และทำให้เว็บคุณเร็วขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
ทำไมต้อง MariaDB
สืบเนื่องจาก MySQL ได้ถูกซื้อไปโดยบริษัท Oracle และความไม่แน่นอนกับแนวทางการพัฒนา และจากข่าวที่ไม่ดีของ Oracle ที่มีต่อ MySQL มีมาเรื่อยๆ และอนาคตของ MySQL ก็ยังไม่มีความชัดเจน ๆ ทำให้บริษัทหรือเว็บใหญ่ ๆ ได้ทยอยเปลี่ยนจาก MySQL เป็น MariaDB เรียบร้อยแล้ว เช่น Wikipedia หรือแม้แต่ Google
MariaDB คือ MySQL ที่ถูกนำมาทำใหม่จาก MySQL โดย Michael Widenius ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้ง MySQL เดิม จึงทำให้ MariaDB แทบจะ เรียกได้ว่าเหมือนกับ MySQL เช่นพวกโครงสร้างไฟล์ โครงสร้างของ Database และ Table สามารถใช้งานของ MySQL ได้แทบจะเกือบ 100% เพราะฉะนั้นการใช้งาน MariaDB แทนที่ MySQL แทบจะไม่ต้องทำอะไรเพิ่มเติมเลย แม้แต่ Code ของ PHP ก็สามารถที่จะใช้งาน function ของ mysql ได้เช่นเดิม
- MariaDB สามารถทำงานได้เร็วกกว่าของ MySQL อีกด้วย ประมาณ 10%